เตือนผู้ใช้องค์กรระวังเสียโอกาส
จากแคมเปญต่อต้าน OpenOffice.org

• สื่อบางกลุ่มได้เริ่มแคมเปญสร้างความหวาดกลัวในการเปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org เช่นใช้คำว่า “อาจทำให้ข้อมูลทางธุรกิจผิดพลาด/สูญหาย” โดยสื่อเหล่านี้ไม่เคยทดสอบ OpenOffice.org สำหรับการใช้งานในองค์กรอย่างจริงจัง ผู้บริหารไม่ควรตัดสินใจจากข้อมูลในลักษณะนี้ แต่ควรตัดสินใจโดยจัดกลุ่มนำร่องทดลองใช้เต็มเวลาอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้ได้คำตอบของตัวเองว่าใช้ได้หรือไม่
• ตัวอย่างองค์กรที่เปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org อย่างเต็มตัว ที่มีผู้ใช้หลักหมื่นเช่นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือหลักพันเช่นการเคหะแห่งชาติ หรือเป็นบริษัทมหาชนอย่าง S&P องค์กรเหล่านี้ใช้ OpenOffice.org มาหลายปีโดยไม่มีอุปสรรคที่ทำให้ต้องเปลี่ยนกลับ ผู้บริหารควรรับฟังข้อมูลจากองค์กรเหล่านี้มากกว่า

ความพยายามในการดิสเครดิต OpenOffice.org

14 มิถุนายน 2553 – Osdev พบความพยายามในการสร้างความเคลือบแคลงต่อ OpenOffice.org มาตั้งแต่ต้นปี 2553 โดยเริ่มต้นเป็น 18 คลิปรายงานปัญหาใน YouTube channel ซึ่งถูกลบไปทันทีที่ทีมงานเข้าไปตอบปัญหา จากนั้นจึงมีบทความ “21 bugs บาดใจคนใช้ OpenOffice” และ “งานกระจุย Bugs กระจาย OpenOffice ของฟรี ที่ต้องระวัง” เป็น cover story เดือนพฤษภาคมของนิตยสารในเครือเดียวกันสองฉบับ นับเป็น bug review บทความแรกของโลก

จากการวิเคราะห์พบว่าbug กลุ่มแรก 8 bug มาจากรายงานที่ Osdev ยื่นขอทุนสนับสนุนเพื่อดำเนินการแก้ไขจากหน่วยงานภาครัฐ กลุ่มที่สองไม่ใช่ bug แต่เป็นปัญหาการใช้งาน กลุ่มสุดท้ายมาจากการค้น bug report ที่ qa.openoffice.org ซึ่งเป็นแหล่งที่เปิดเผย แล้วนำขั้นตอนในการทำให้เกิด bug ที่ผู้รายงานตั้งใจส่งให้ผู้พัฒนาแก้ไข มาเขียนให้เหมือนกับว่าประสบปัญหากับตัวเองจริงๆ ซึ่งหากใช้วิธีนี้จะสามารถเขียน bug review ไปได้เรื่อยๆ เพราะรายงานเช่นนี้มีเป็นหมื่น

ตัวอย่างเช่น ข้อ 2 “ข้อมูลสยองขวัญ แพร่พันธุ์ไม่บอกกล่าว” และข้อ 9 “ปัญหา 8 ปี ของ Autofilter” มาจาก issue หมายเลข 109084 และ 2977 ตามลำดับ สังเกตภาษาประชดประชันที่ผู้เขียนเลือกใช้จะเข้าใจได้ว่าบทความไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ผู้ใช้ตามอ้าง และเมื่ออ่านรายละเอียดปัญหาทุกคนจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ใช้ทั่วไปจะพบปัญหานั้นเพราะเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนมาก แม้จากประสบการณ์ที่ตอบปัญหาลูกค้ามานับหมื่นคน Osdev ก็ยังไม่เคยพบใครถามปัญหานี้แต่อย่างใด

กระจายข่าวโฆษณาชวนเชื่อ

หลังจากตีพิมพ์บทความนั้นจึงปรากฏข่าวประชาสัมพันธ์ด้วยหัวนิตยสารต่างประเทศ “เตือนผู้ใช้ OpenOffice ระวังข้อผิดพลาดจากโปรแกรม” แจกจ่ายไปตามองค์กรและสื่อต่างๆ สร้างความตื่นตระหนกทั้งกับหน่วยงานภาครัฐที่สนับสนุนโอเพนซอร์สมาตลอดอย่าง SIPA, กระทรวง ICT และ NECTEC ทั้งกับบริษัทที่เริ่มคิดจะเปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org แต่ต้องชะงักงันด้วยเข้าใจว่านิตยสารต่างประเทศฉบับนั้นกำลังแนะนำว่าไม่ควร แต่ความเป็นจริงคือ:-

1. ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนั้นถึงแม้จะใช้หัวกระดาษเป็นนิตยสารต่างประเทศ แต่ความจริงเป็นความเห็นของบรรณาธิการของนิตยสารในประเทศฉบับหนึ่ง
2. ความเห็นที่แท้จริงของบรรณาธิการนิตยสารต่างประเทศฉบับนั้น สามารถทำความเข้าใจได้จากบทความ “Four Ways to Save Money on Software” ใน cio.com คือ

“for just about every pricey software application or operating system, a freeware or open-source alternative can be found. For example, OpenOffice can easily take the place of Microsoft Office.”

กล่าวหา OpenOffice.org ใช้เงินจากภาษีของประเทศไทย

นิตยสารฉบับนั้นกล่าวว่า “OpenOffice ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ฟรี เพราะรัฐบาลไทยมีงบลงทุนเพื่อศึกษาวิจัย และปรับปรุงแก้ไขโค้ด รวมไปถึงการสนับสนุนการผลิตเป็น CD แจก และจัดอบรมต่างๆ ซึ่งล้วนมาจากภาษีของประเทศ” ข้อนี้ห่างไกลความจริงมาก แม้รัฐบาลไทยจะไม่ลงทุนเรื่องนี้เลย ผู้ใช้ทั่วโลกก็สามารถใช้ OpenOffice.org ได้ฟรีเท่าเทียมกัน โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากแหล่งดาวน์โหลดมากมายทั้งในและต่างประเทศ เพราะ OpenOffice.org เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่พัฒนาโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นคู่แข่งของไมโครซอฟท์อย่าง Oracle, Novell, IBM, และ Google เป็นต้น

ยิ่งกว่านั้น รัฐบาลไทยควรลงทุนอย่างมากในการขจัดอุปสรรคที่ผู้ใช้จะเข้าถึง OpenOffice.org เช่นเผยแพร่ซีดีและคู่มือ เพราะจะทำให้เอกชนประหยัดค่าไลเซนส์ได้เป็นทวีคูณ ซึ่งปัจจุบันทั้ง NECTEC และ SIPA ก็ได้ทำงานด้านนี้ไปอย่างมาก จนไม่มีที่ใดในโลกที่จะมีแหล่งข้อมูลในการเรียนรู้ OpenOffice.org ฟรีๆ ได้มากเท่าประเทศไทย อีกทั้งยังมีฟอรัมของชุมชนโอเพนซอร์สให้ถามปัญหาอีกหลายเว็บ

The ฿ottom line

องค์กรไม่ควรเลือกซอฟต์แวร์เพราะความชอบไม่ชอบ หรือเพราะราคาเพียงอย่างเดียว แต่เลือกเพราะทำให้ได้สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีที่สุด MS Office เป็นซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ จริงๆ เพียงแต่พนักงานส่วนใหญ่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ทั้งหมด จึงมักไม่คุ้มที่จะซื้อไลเซนส์ให้ทุกคน OpenOffice.org ไม่ได้มีความสามารถเท่า MS Office แต่มากพอที่จะให้พนักงานประมาณ 60%-90% ในองค์กรใช้ได้ ส่วนที่เหลือจึงจะต้องซื้อไลเซนส์ MS Office ให้ครบถ้วน

องค์กรคงไม่เลิกคิดที่จะเปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org หาก 100 คนใน 1,000 คนติดปัญหา เพราะมีถึง 900 คนที่ใช้ได้ องค์กรเพียงตัดสินใจว่าจะลงทุนหมื่นกว่าบาทค่าไลเซนส์ MS Office ให้พนักงานที่ติดปัญหาแต่ละคน หรือจะหาทางแก้ปัญหาซึ่งพนักงานอาจต้องมีการปรับตัวบ้าง การวางแผน migration ที่สำคัญมากขั้นหนึ่งคือการหาตัวผู้ใช้เหล่านี้ให้เจอทั้งหมดแล้วตัดสินใจว่าแต่ละคนควรจะได้รับการจัดสรรไลเซนส์ MS Office หรือไม่ และคงไม่มีองค์กรใดปฏิเสธ OpenOffice.org เพียงเพราะตรวจคำผิดภาษาไทยไม่ได้ หรือขีดเส้นใต้หนาเกินไป

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org ทั้งองค์กรไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับองค์กรที่มีผู้ใช้เกินร้อยคนขึ้นไปเพราะจะมีแรงต่อต้านการเปลี่ยนแปลงจากพนักงานเสมอ อันเป็นเรื่องปกติสำหรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มีผลกับคนทั้งองค์กรกับเครื่องมือที่ทุกคนใช้งานตลอดทั้งวัน การวางแผน การประเมินคนที่สามารถและไม่สามารถเปลี่ยน การอบรมและ support ประกอบกับการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ดีจะช่วยให้ทุกองค์กรสามารถเปลี่ยนไปใช้ OpenOffice.org ร่วมกับ MS Office ได้ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่นและยั่งยืน และ bottom line ก็คืองบไอทีที่ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

เกี่ยวกับ OpenOffice.org

OpenOffice.org เป็นชุดซอฟต์แวร์สำนักงานที่มีความสามารถใกล้เคียงและสามารถใช้ทดแทน MS Office ได้ในงานส่วนใหญ่ OpenOffice.org 3.x ได้ผ่านหลัก 100 ล้านดาวน์โหลดไปเมื่อ 28 ตุลาคม 2552 และได้รับรางวัล 2009 Readers' Choice Award จาก Linux Journal โปรแกรม OpenOffice.org มีส่วนแบ่งทางการตลาดโดยรวมราวสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ และมีการนำมาใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีจำนวนผู้ใช้หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนคนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและเอเซียเช่นมาเลเซียและสิงคโปร์

เกี่ยวกับ Osdev – บริษัท Open Source Development จำกัด

บริษัท Osdev ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับโอเพนซอร์สมากว่า 4 ปี ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการเปลี่ยนองค์กรมาใช้ซอฟต์แวร์โอ?เพน?ซอร์ส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง OpenOffice.org บริษัทมีลูกค้าตั้งแต่ SME จนถึง SET50 ที่เปลี่ยนมาใช้ OpenOffice.org ได้สำเร็จ ช่วยประหยัดค่าไลเซนส์ต่อบริษัทอย่างถาวรตั้งแต่หลักล้านจนถึงหลายสิบล้านบาท

ติดต่อ

ทินกร สำเภาแก้ว
โทร 02 269-9889, 087 337-2010
อีเมล info@osdev.co.th